๔/๒๘/๒๕๕๒

อาวุธไมโครเวฟ - อาชญากรเทคโนโลยีรูปแบบใหม่!

เดี้ยวนี้มีอาวุธที่มีประสิทธิภาพสำหรับอาชญากรและผู้ก่อการร้ายที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน และสำหรับผู้ที่ชอบทำผิดกฏหมายแล้วพวกมันชอบใช้ในทางที่ผิด และเมื่อคนกลุ่มนี้นำอุปกรณ์ Hi-tech เหล่านี้มาใช้กับเป้าหมาย ผู้ที่ตกเป็นเป้าจะไม่ถูก "ยิง" ทว่าเป้าหมายนั้น ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็จะถูกกระหน่ำด้วยคลื่นอิเล็กโทรแมคเนติกความถี่สูง (high-frequency electromagnetic) โดยอุปกรณ์ Hi-tech ที่เรียกว่า Directed Energy Weapon (DEW) โดยอุปกรณ์นี้ถูกใช้โดยกองทัพ (U.S. Air force, Russian หรือ Chinese armies) บริษัทที่ผลิตอุปกรณ์ Hi-tech ชื่อ Raytheon กล่าวว่า "เราเชื่อว่าสิ่งที่เราผลิตขึ้นมานั้นจะเปลี่ยนปัจใจหลักๆในการต่อสู้ในสงคราม อุปกรณ์ HPM (High power microwave) คืออุปกรณ์ที่มีศักยภาพที่สุดในขณะนี้"

ในขณะที่หนังสือพิมพ์เยอรมันนี "DIE WELT" ก็รับรู้ถึงการใช้อาวุธไมโครเวฟที่กำลังจะมีอย่างแพร่หลายในศตวรรษที่ 21 การถูกโจมตีโดย อาวุธไมโครเวฟจะทำให้ร่างการอ่อนเพลีย ปวดหัว หัวใจเต็นผิดปกติ ท้องร่วง ทำลายระบบประสาทสัมผัส และระบบภายในร่างกาย สามารถเผาใหม่เนื้อเยื่อ และทำลายม่านตา ซึ่งหากการโจมตีนั้นกินระยะเวลาที่ยาว เหยื่ออาจ ตาบอด หัวใจล้มเหลว ช๊อค และเป็นมะเร็ง ผลกระทบระยะสั่นจากการถูกโจมตีโดยอาวุธไมโครเวฟคือการทำให้เหยื่อดูเหมือนเป็นบ้า หรือถูกมองว่าเป็นคนอันตรายของสังคม

อาชญากร HPM (High power microwave) คืออาชญากรรมรูปแบบใหม่ที่แตกต่างอย่างไม่เคยมีมาก่อน โดยองค์กร International Union of Radio Science ได้เคยให้คำแถลงการเกี่ยวกับทางออกของอาชญากรรมโดยใช้เครื่องมือ electromagnetic ว่า "มันคือความจริงที่ว่าอาชญากรที่นำคลื่นอิเล็กโทรแมคเนติกมาใช้ประโยชน์นั้นมีความสามารถในการดำเนินกิจกรรมได้อย่างลับๆ ผ่านวัตถุต่างๆที่ขวางกั้น ไม่ว่าจะเป็นรั้วบ้านหรือแม้กระทั้งกำแพงห้องนอน ผ่านการทะลุทะลวงของคลื่นอิเล็กโทรแมคเนติก"

ผู้เชี่ยวชาญชื่อ Pevler กล่าวว่า "การสร้างอาวุธ HPM (High power microwave) ขึ้นมาใช้อย่าแพร่หลายนั้นสักวันหนึ่งก็ต้องตกอยู่ในมือของอาชญากร ที่จะให้ประโยชน์กับอาวุธเหล่านี้ในการก่ออาชญากรรมที่ปราศจากร่องรอย การถูกโจมตีโดยอาวุธ HPM นั้นจะไม่ทิ้งร่องรอยเพื่อใช้เป็นหลักฐาน และผลลัพท์ของมันอาจเพียงทำให้เกิดแค่ความรำคาญ หรืออาจถึงขั้นพบจุดจบที่หายนะได้เลยทีเดียว"

อาวุธ HPM ที่พวกแก้งค์ Hi-tech ใช้กันนั้นจะยิงคลื่นความถี่ (เป็น continuous หรือ pulse wave) ไปที่เหยื่อช่วงเวลาหนึ่ง โดยเฉพาะตอนกลางคืนคลื่นอิเล็กโทรแมคเนติกนั้นอาจถูกยิงจากรถหรืออาคารที่อยู่รอบๆบ้านเหยื่อ พวกเค้าจะใช้ magnetron หรือเครื่องแปลงไมโครเวฟ หรือเครื่อง amplifier หรืออาจเป็นระบบที่เกี่ยวข้องกัน นอกเหนือจากนั้นพวกเค้าจะใช้ through wall imaging method (วิธีในการมองลอดกำแพงโดยใช้กล้องที่ทำงานพร้อมกับคลื่นอิเล็กโทรแมกแนติกเพื่อให้ได้สามารถมองทะลุกำแพง) ปัจจุบันมีผู้ที่ตกเป็นเหยื่อในเยรมันนีแล้วไม่ต่ำกว่า 400 คน บางคนยังถูกโจมตีเลยแม้กระทั้งที่โรงพยาบาล แต่ตำรวจนั้นยังไม่เข้าใจเกี่ยวกับอาวุธชนิดนี้

นอกเหนือจากอาวุธแล้วอาชญากรเหล่านี้ใช้ยุทธวิธีการโจมตีโดยใช้ข้อมูลข่าวสาร (Information warfare) นั้นคือ รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเหยื่อ และอย่าให้เหยื่อรู้อะไรเกี่ยวกับคุณ ครอบงำโดยข้อมูลข่าวสาร และทำให้เหยื่อสับสนกับข้อมูลข่าวสารที่ได้รับ

เครือข่ายอาชญากรเหล่านี้นั้นมีบุคลากรมากมายทางด้านเทคนิคและในด้านอุปกรณ์ นั้นก็หมายความว่าศักยภาพในการเล็งคลื่นอิเล็กโทรแมกแนติกใส่เป้าหมายที่สามารถทำได้จากรถกระบะหรือรถตู้ ส่วนอุปกรณ์แปลงคลื่นไมโครเวฟ นั้นสามารถซ่อนในกระเป๋าได้อย่างง่ายดาย

เหยื่อส่วนใหญ่จะถูกเล่นงานโดยกลยุทธ "สองเด้ง"(double strategy) หนึ่งคือเหยื่อจะถูกทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย ทำให้เจ็บ ถูกทรมาณ หรือถูกคุกคามและทำให้กลัว โดยการนำ อาวุธอิเล็กโทรแมคเนติกมาเล่นงาน ระหว่างนั้นเหยื่อจะสัมผัสปรากฏการณ์ต่างๆรอบข้างที่ "เหลือเชื่อ" ในลักษณะที่ไม่มีใครที่จะเชื่อในสิ่งที่เหยื่อเล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้น และโดยส่วนใหญ่จะถูกตีความว่าเหยื่อนั้น บ้า หรือเพ้อเจ้อ ผู้เชี่ยวชาญหลายคนที่ทำงานกับกองทัพเยรมันนี หรือ Nato จะรู้จักอาวุธอิเล็กโทรแมคเนติกเหล่านี้ดี แต่การที่อาวุธนี้ถูกจัดเป็นความลับนั้นทำให้ไม่ค่อยมีใครพูดถึงมัน