ในขณะที่หนังสือพิมพ์เยอรมันนี "DIE WELT" ก็รับรู้ถึงการใช้อาวุธไมโครเวฟที่กำลังจะมีอย่างแพร่หลายในศตวรรษที่ 21 การถูกโจมตีโดย อาวุธไมโครเวฟจะทำให้ร่างการอ่อนเพลีย ปวดหัว หัวใจเต็นผิดปกติ ท้องร่วง ทำลายระบบประสาทสัมผัส และระบบภายในร่างกาย สามารถเผาใหม่เนื้อเยื่อ และทำลายม่านตา ซึ่งหากการโจมตีนั้นกินระยะเวลาที่ยาว เหยื่ออาจ ตาบอด หัวใจล้มเหลว ช๊อค และเป็นมะเร็ง ผลกระทบระยะสั่นจากการถูกโจมตีโดยอาวุธไมโครเวฟคือการทำให้เหยื่อดูเหมือนเป็นบ้า หรือถูกมองว่าเป็นคนอันตรายของสังคม
อาชญากร HPM (High power microwave) คืออาชญากรรมรูปแบบใหม่ที่แตกต่างอย่างไม่เคยมีมาก่อน โดยองค์กร International Union of Radio Science ได้เคยให้คำแถลงการเกี่ยวกับทางออกของอา

ผู้เชี่ยวชาญชื่อ Pevler กล่าวว่า "การสร้างอาวุธ HPM (High power microwave) ขึ้นมาใช้อย่าแพร่หลายนั้นสักวันหนึ่งก็ต้องตกอยู่ในมือของอาชญากร ที่จะให้ประโยชน์กับอาวุธเหล่านี้ในการก่ออาชญากรรมที่ปราศจากร่องรอย การถูกโจมตีโดยอาวุธ HPM นั้นจะไม่ทิ้งร่องรอยเพื่อใช้เป็นหลักฐาน และผลลัพท์ของมันอาจเพียงทำให้เกิดแค่ความรำคาญ หรืออาจถึงขั้นพบจุดจบที่หายนะได้เลยทีเดียว"

นอกเหนือจากอาวุธแล้วอาชญากรเหล่านี้ใช้ยุทธวิธีการโจมตีโดยใช้ข้อมูลข่าวสาร (Information warfare) นั้นคือ รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเหยื่อ และอย่าให้เหยื่อรู้อะไรเกี่ยวกับคุณ ครอบงำโดยข้อมูลข่าวสาร และทำให้เหยื่อสับสนกับข้อมูลข่าวสารที่ได้รับ
เครือข่ายอาชญากรเหล่านี้นั้นมีบุคลากรมากมายทางด้านเทคนิคและในด้านอุปกรณ์ นั้นก็หมายความว่าศักยภาพในการเล็งคลื่นอิเล็กโทรแมกแนติกใส่เป้าหมายที่สามารถทำได้จากรถกระบะหรือรถตู้ ส่วนอุปกรณ์แปลงคลื่นไมโครเวฟ นั้นสามารถซ่อนในกระเป๋าได้อย่างง่ายดาย
เหยื่อส่วนใหญ่จะถูกเล่นงานโดยกลยุทธ "สองเด้ง"(double strategy) หนึ่งคือเหยื่อจะถูกทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย ทำให้เจ็บ ถูกทรมาณ หรือถูกคุกคามและทำให้กลัว โดยการนำ อาวุธอิเล็กโทรแมคเนติกมาเล่นงาน ระหว่างนั้นเหยื่อจะสัมผัสปรากฏการณ์ต่างๆรอบข้างที่ "เหลือเชื่อ" ในลักษณะที่ไม่มีใครที่จะเชื่อในสิ่งที่เหยื่อเล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้น และโดยส่วนใหญ่จะถูกตีความว่าเหยื่อนั้น บ้า หรือเพ้อเจ้อ ผู้เชี่ยวชาญหลายคนที่ทำงานกับกองทัพเยรมันนี หรือ Nato จะรู้จักอาวุธอิเล็กโทรแมคเนติกเหล่านี้ดี แต่การที่อาวุธนี้ถูกจัดเป็นความลับนั้นทำให้ไม่ค่อยมีใครพูดถึงมัน